NEWS

พิสูจน์ความก้าวหน้าของพวกเขาเหล่านักแข่งจากมาสเตอร์แคมป์

December 11, 2017

นักแข่งมาสเตอร์แค้มป์พิสูจน์ความก้าวหน้าของพวกเขาในการแข่งขันเอเซียแมทย์ปิดฤดูกาล

โปรแกรม Yamaha VR46 Riders Academy ได้เริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2016 โดยกำหนดเป้าหมายจากเหล่านักแข่งที่เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียหรือรายการเอเซียโรดเรซซิ่งแชมป์เปี้ยนชิพ (ARRC) เป้าหมายสูงสุดของโปรแกรมนี้คือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักแข่งต่อไปเพื่อมุ่งสู่เวทีแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าขั้นตอนต่างๆ อยู่ในมือของพวกเขา ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจากการเข้าร่วมมาสเตอร์แค้มป์กับสถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 ของ วาเลนติโน่ รอสซี่

สนามที่ 6 และเป็นสนามสุดท้ายของการแข่งขันชิงแชมป์เอเซียในฤดูกาลนี้ ที่จัดขึ้น ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 2 และ 3 ธันวาคม กับ 8 นักแข่งที่ผ่านการเข้าร่วมมาสเตอร์แค้มป์ รวมถึง อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จากประเทศไทย ผู้ผ่านการเข้าร่วมมาสเตอร์แค้มป์ครั้งที่ 2 ซึ่งได้สร้างความกระจ่างชัดให้โลกได้เห็นถึงพัฒนาการของเขา

ในปี 2016 อภิวัฒน์ได้คว้ารางวัลแชมป์เปี้ยนในการแข่งขันชิงแชมป์เอเซียในรุ่นเอเซียโปรดักซ์ชั่น 250 และจากความสำเร็จของเขาบนสนามแข่งรวมถึงศักยภาพที่สามารถแสดงให้เห็นถึงอนาคตของเขา โดยเขาได้ถูกคัดเลือกเข้าร่วม VR46 มาสเตอร์แค้มป์ทีม ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกระดับจูเนียร์รุ่น CEV โมโต3 เมื่อเสร็จสิ้นกับฤดูกาลแรกที่เป็นการเปิดตัวด้วยการจบในอันดับที่ 12 ของตารางคะแนนสะสม จากนั้นอภิวัฒน์ได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์เอเซียในสนามสุดท้ายในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดกับ Yamaha Thailand Racing Team บนรถแข่ง YZF-R6 ใหม่

นอกเสียจากตำแหน่งโพลโพซิชั่น เขาได้ผ่านเหตุการณ์ในการแข่งขันเรซที่ 1 ที่โค้งสุดท้ายของรอบสุดท้าย กับชัยชนะที่น่าอัศจรรย์ และหลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงในเรื่องของความรู้สึกกับตัวรถแข่ง เขาร่วมการแข่งขันในเรซที่ 2 ด้วยการวิ่งอยู่ด้านหน้าโดยไม่มีใครไล่ทันและจบด้วยชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ถือว่าเป็นรุ่นที่รวมนักแข่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหลายในเอเซียเอาไว้ ทำให้อภิวัฒน์ได้แสดงศักยภาพอันโดดเด่นได้มากยิ่งขึ้น

นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทีม Yamaha Thailand Racing Team ได้กล่าวว่า "การเข้าร่วมในมาสเตอร์แค้มป์ได้เพิ่มขอบเขตความสามารถให้แก่อภิวัฒน์ได้เป็นอย่างมาก การขับขี่ในการแข่งขัน CEV ในปีนี้ เขาแข่งขันร่วมกับเหล่านักแข่งยุโรปและมีการเรียนรู้วิธีการที่จะอยู่รอดในสภาพแวดล้อมต่างๆ ในสนามแข่งที่ยากลำบาก คุณสามารถบอกได้จากวิธีการที่เขาแข่ง ณ ที่นี่ ว่าทักษะของเขากับรถแข่ง การเซ็ทอัพเครื่องยนต์ และ การแข่งขันที่ทำได้มากกว่าระดับชั้นนำในเอเชีย ผมต้องการที่จะเห็นการเติบโตของเขาที่ดียิ่งขึ้นและสำหรับเขาที่จะมีโอกาสว่าสักวันหนึ่งจะได้ลงทำการขับขี่ในรายการระดับกรังด์ปรีซ์ "

อภิวัฒน์กล่าวถึงปีนี้ของเขาว่า "การแข่งขันชิงแชมป์ใน CEV เป็นเรื่องที่ยากมาก นักแข่งระดับท๊อบจำนวน 20 อันดับแรกอยู่ในระดับเดียวกันและทุกคนก็มีความรวดเร็วจริงๆ ในทุกๆ การแข่งขัน ในทุกเซสชันคุณต้องมีการปรับปรุงตลอด ถ้าหากคุณติดอยู่กับบางสิ่งบางอย่างคุณจะถูกทิ้งอยู่ข้างหลังในทันที ช่วงเวลาของฤดูกาลนี้ มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้เพื่อที่จะทำอย่างไรให้วิ่งด้วยเวลาที่เร็วและมีต้องมีความเร็วที่ต้องทำให้ได้ ผมไม่สามารถได้ผลของเวลาตามที่ผมต้องการ ดังนั้นผมไม่รู้สึกว่าผมก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ แต่ด้วยชัยชนะในซูเปอร์สปอร์ต 600 ทั้ง 2 ครั้ง ผมได้ตระหนักว่าเวลาที่ใช้ใน CEV ไม่ใช่สิ่งที่เสียหายและความจริงนั้นคือผมมีความก้าวหน้าเกิดขึ้น"

ถ้าหากมีนักแข่งอีกหนึ่งคนที่มีการเติบโตที่สำคัญในฤดูกาลนี้ ก็จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านเข้าร่วมมาสเตอร์แค้มป์ครั้งที่ 1 และ 2 กับ นักแข่งอินโดนีเซีย กาลัง เฮนดร้า ปราทาม่า น่าเสียดายที่เขาต้องพลาดการแข่งขันในเรซที่ 1 ในสนามสุดท้ายเนื่องจากได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหลังจากจบการควอลิฟาย แม้ว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้ร่วมการแข่งขันในเรซที่ 2 แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาทำให้เขาจบการแข่งขันในตำแหน่งที่ 9 อย่างไรก็ตาม มองย้อนกลับไปในฤดูกาลปราทาม่าได้รับตำแหน่งโพลโพซิชั่นและเป็นชัยชนะครั้งแรกของเขาที่สนาม 5 ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่สำคัญของการพัฒนาอาชีพการแข่งของเขา

อีกหนึ่งข่าวสำคัญของปีนี้ ที่มีเกิดขึ้นคือการปรากฏตัวของปราทาม่า 2 ครั้งในสิทธิ์ไวด์การ์ดของรายการแข่งขันชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 300 ในการแข่งขันที่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกที่ปอร์ติเมาเขาประสบปัญหาหลายประการ แต่ในตอนจบฤดูกาลที่เฮเรซเขาได้รับชัยชนะในการแข่งขันนับเป็นครั้งแรกที่นักแข่งอินโดนีเซียชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลกและทำให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อการแข่งรถในยุโรป

หลังจากที่ได้รับชัยชนะ ปราทาม่า ได้แบ่งปันความคิดของเขาว่า "หลังจากมาสเตอร์แค้มป์ ด้วยความปรารถนาของผมที่จะก้าวสู่ระดับโลกอย่างแข็งแกร่งและในที่สุดผมก็มีโอกาสที่จะทำในปีนี้ด้วยโอกาสอันยอดเยี่ยมจากยามาฮ่าในการเข้าแข่งเวิล์ดซูเปอร์สปอร์ต 300 ผมสามารถเอาชนะได้เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นปีที่ผมไม่สามารถที่จะมีความยินดีอื่นได้มากไปกว่านี้ ด้วยการแข่งขันที่แท้จริงของผมคือการแข่งขันชิงแชมป์เอเซีย แต่ผมคิดว่าผมสามารถที่จะชนะในการแข่งขันในรุ่นเวิล์ดซูเปอร์สปอร์ต 300 ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะผมได้เติบโตขึ้นมากกับทุกการแข่งขันที่ยากลำบากกับเหล่านักแข่งในเอเซียที่หิวกระหายต่อความสำเร็จ

2 นักแข่งที่ได้รับการประกาศถึงแผนในอนาคตก็คือ แผนของอภิวัฒน์คือการแข่งขันต่อในการแข่งขันชิงแชมป์โลกระดับจูเนียร์ CEV โมโต3 ในฤดูกาลหน้ากับเป้าหมายในการจบการแข่งขันบนโพลเดี้ยม และปราทาม่ากลับมาฝึกฝนและเตรียมพร้อมสำหรับเขากับสักวันหนึ่งที่จะสร้างโอกาสก้าวออกจากเอเซียไปสู่เวทีโลก

นอกจากนี้ยังมีหนึ่งนักแข่งที่มีพรสวรรค์ ด้วยผลงานที่ไม่สามารถผ่านไปโดยไม่เอ่ยถึง การเข้าร่วมมาสเตอร์แค้มป์ในครั้งที่ 3 ของ มูฮัมหมัด อัคริด บิน อาซิซ จากประเทศมาเลเซีย ที่ได้รับการยกย่องกับตำแหน่งแชมป์ในรุ่นอันเดอร์โบน 150 ของฤดูกาลนี้

แม้ว่าจะเป็นโอกาสที่น่าอัศจรรย์ แต่มาสเตอร์แค้มป์ก็ไม่ได้รับประกันอะไรดังที่ได้กล่าวมาแล้ว นี่คือนักแข่งที่ได้รับประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับผ่านทางโปรแกรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองและแกะลอยเพื่อหาเส้นทางสู่เวทีระดับโลก

อนาคตของการแข่งขันอยู่ในทิศทางของการเปลี่ยนแปลง