NEWS
December 15, 2016
เหล่านักแข่งจากสถาบันฝึกอบรมส่องประกาย ณ สนามสุดท้าย
หลังจากเสร็จสิ้นประสบการณ์ที่เหมือนความฝัน นั้นคือ เดอะมาสเตอร์แค้มป์ นักแข่งบางคนที่ผ่านโครงการดังกล่าวได้วางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาโดยแสดงออกมาเป็นคาพูดได้ว่า "ส่วนที่ยอดเยี่ยมของแค้มป์คือการได้ขับขี่ที่สนามมิซาโน่ ในครั้งหน้าที่ผมจะมาขี่ที่นี้ จะมาในฐานะนักแข่งมอเตอร์ไซค์ระดับนานาชาติ" หรือ "ผมต้องการที่จะแข่งขันในระดับโลกเร็วๆ นี้ อย่างเช่นสมาชิกนักแข่งของสถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 ได้ทากัน" การแสดงอื่นๆ อย่างความผิดหวังของพวกเขา: "ผมล้มลงหลายครั้ง ในสนามเดิร์ทแทร็คที่มอเตอร์รัช และมันยังคงย้าเตือนความทรงจาที่เจ็บปวดของวิธีการที่ผมมีอยู่เป็นจานวนมากในการทางานกับมัน" และ "ถ้าผมไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ มันไม่มีทางที่ผมจะสามารถไปยังเวทีระดับโลก"
นักแข่งทั้ง 6 จากประเทศต่างๆในทวีปเอเชียที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ เดอะมาสเตอร์แค้มป์ในฤดูกาลนี้ภายใต้การฝึกของยามาฮ่า และ สถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 ซึ่งโครงการดังกล่าวมอบประสบการณ์เพื่อให้นักแข่งสร้างความเข้าใจถึงอุปสรรคที่พวกเขาต้องก้าวผ่าน กับการสร้างความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่และจิตวิญญาณแห่งความท้าทายที่จุดประกายความสว่างไสวก่อนที่พวกเขาจะกลับสู่การแข่งขันชิงแชมป์เอเซียอย่าง เอเซีย โรดเรซซิ่ง แชมป์เปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันหลักของพวกเขา
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากเดอะมาสเตอร์แค้มป์ครั้งที่ 2 ได้จบลง สนามที่ 5 ของการแข่งขันชิงแชมป์เอเซียที่เกิดขึ้น ณ ประเทศอินเดีย นักแข่งของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีมอย่างอภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ได้ยึดตาแหน่งผู้นาในรุ่น เอเซียโปรดักซ์ชั่น 250 จากนั้นในเดือนธันวาคมก่อนการแข่งขันสนามสุดท้ายเหล่านักแข่งรู้สึกว่าวิธีเดียวที่จะตอบแทนเหล่าผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ของโครงการ ยามาฮ่า กับสถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 ก็คือสร้างผลการแข่งขันที่ดีในการแข่งขันที่เหลือ พวกเขาบอกว่านั้นคือมูลค่าที่แท้จริงของโครงการนี้ ซึ่งมีเหล่านักแข่งดาวรุ่งจานวนมากจากทั่วโลกจับตาดูพวกเขา สิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินขึ้นอยู่กับผลงานของพวกเขา และพวกเขามีความต้องการที่จะทาผลงานให้บรรลุผลเพื่อที่จะไม่สร้างความเสื่อมเสีย แก่ชื่อเสียงของโครงการ ไม่เพียงเท่านั้น แต่การแข่งขันครั้งนี้จะยังมีบทบาทในแนวทางดาเนินงานสาหรับฤดูกาลหน้าอีกด้วย ตามธรรมชาติแล้ว เหล่านักแข่งต้องการที่จะทาทุกอย่างเพื่อจบการแข่งขันด้วยเพียงตาแหน่งเดียวที่สูงที่สุด พวกเขาเต็มไปด้วยการตอบแทนคุณของทีม ความรับผิดชอบ และความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง เพราะสนามสุดท้ายที่จัดขึ้นมีความสาคัญสาหรับพวกเขา ในการแข่งขันเต็มไปด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือด
การแข่งขันเรซที่ 1 จะเห็นได้ว่ารถกว่า 10 คันขับเคี่ยวเพื่อ 3 ตาแหน่งบนโพลเดี้ยม ซึ่งมันคือความยุ่งเหยิงจากการต่อสู้ทั้งหมด ตัวหลักของกลุ่มที่ขับขี่อย่างโดดเด่น ซึ่งมี อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ คาสม่า ดาเนียล คาสมายูดิน จาก ยามาฮ่า ฟินสัน เรซซิ่ง ทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ คาสมายูดิน ยังไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายตามที่เขาตั้งไว้ ซึ่งในการแข่งขันเขามาจากกลุ่มหลังของตาแหน่งสตาร์ทมายังกลุ่มนาทางด้านหน้า เขามอบทุกสิ่งอย่างเพื่อขับเคี่ยวกับอภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ คู่แข่งจากค่ายผู้ผลิตอื่นๆ อย่างไม่สนใจกติกา
ผลการแข่งขันเมื่อจบคืออะไร แต่พอที่คาดเดาได้ ในรอบสุดท้ายอีกเพียงไม่กี่โค้ง อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เกิดล้มไปพร้อมกับ คาสมายูดิน ในจังหวะนั้น มันเป็นการล้มที่ใหญ่ ซึ่งมีผลไปยัง กาลัง เฮนดร้า ปราทามา นักแข่งของ ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ที่ต้องสูญเสียตาแหน่งของเขา เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากโค้งนั้น ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน พวกเขาที่เหลือเหล่านั้นยังคงช่วงชิงตาแหน่งโพเดี้ยมที่มีไว้สาหรับ 3 นักแข่ง กับระยะทางที่เหลืออีกไม่ไกล
อย่างไรก็ตาม พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง จาก ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ที่อยู่ในกลุ่มที่ 2 และขยับขึ้นมานาเนื่องจากรถแข่งหลายคันที่ล้มไป ในท้ายที่สุดเขาต้องเสียตาแหน่งผู้ชนะให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขา แต่ก็ยังอยู่ในตาแหน่งโพเดี้ยมอันดับ 2 อีกครั้งสาหรับเขานับตั้งแต่การแข่งขันสนามที่ 2 กับตาแหน่งอันดับ 2 ครั้งสุดท้าย ซึ่งมันเป็นผลงานที่แข็งแกร่ง
ในการแข่งขันเรซที่ 2 อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสมกับที่เป็นแชมป์ สะท้อนให้เห็นถึงผลจากความยุ่งเหยิงของการขับเคี่ยวเหมือนอย่างในตอนเริ่มการแข่งขันเรซที่ 1 อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เริ่มต้นการแข่งขันในเรซที่ 2 ด้วยการทาเวลาต่อรอบที่เร็วมากและแยกออกจากลุ่มที่ตามอยู่ด้านหลัง มีเพียงคู่แข่งหนึ่งเดียวของเขาก็สามารถที่จะไล่เขาทัน แต่ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์วงศ์ ได้แสดงผลของการขับขี่ด้วยความห้าวหาญ
อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ลดไปอยู่อันดับ 2 ในช่วงกลางของการแข่งขัน แต่เขาไล่ติดล้อหลังของคู่แข่งด้วยความใจเย็นกับการวางแผนในการแซงของเขา จากนั้นในช่วงกลางของรอบสุดท้าย ราวกับว่ามันเป็นไปตามแผนของ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์วงศ์ ในการขึ้นนาอันดับ 1 ด้วยการอยู่ด้านในและเพิ่มความเร็วของเขาขึ้นทันที เขาห่างออกจากนักแข่งที่อยู่อันดับ 2 ที่อยู่ข้างหลัง ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มของผู้ขับขี่ที่กาลังขับเคี่ยวในการชิงอันดับ 3 ในท้ายที่สุดเขาสามารถคว้าชัยชนะครั้งที่ 9 ของฤดูกาลได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขาข้ามผ่านเส้นชัยเป็นคนแรก
ในขณะที่การต่อสู้ของกลุ่มชิงอันดับที่ 3 ระอุขึ้นและทุกคนต่างตัดสินใจชิงจังหวะกันในโค้งสุดท้าย รถแข่งหลายคันพยายามสาหรับการเข้าไลน์ด้านในเหมือนกันทั้งหมด แต่ เอ็มมานูเอล พุทรา ปราทนา จากทีม ยามาฮ่า ทราซ-ดี ทีเจเอ็ม เบียน เรซซิ่ง ออกมาโดยอยู่ตาแหน่งหน้าสุด เมื่อตรวจสอบถึงรถที่ตามหลังมา ก่อนที่จะชูกาปั้นดีใจตอนข้ามเส้นชัย ช่วงเวลาของเขาที่เดอะมาสเตอร์แค้มป์และประสบการณ์ 2 ปี ในการแข่งขันรายการเอเซียโรดเรซซิ่ง กับความเป็นจริงของการทางานมันคือครั้งแรกที่เขาจบการแข่งขันด้วยตาแหน่งโพเดี้ยม
ซึ่งบางคนได้แสดงให้เห็นถึงผลของความพยายามของพวกเขาและบางส่วนที่ถูกปล่อยไว้กับสิ่งที่ต้องการแสดงที่มีอยู่อีกมาก และนั่นก็คือการสิ้นสุดฤดูกาล 2016 แต่สิ่งที่ชัดเจนคือการที่นักแข่งทุกคนยังคงอยู่บนเส้นทาง เพื่อการบรรลุสู่เป้าหมายของพวกเขา พร้อมทั้งจะส่งผลและเพิ่มแรงจูงใจที่ได้รับจาก ยามาฮ่า กับ สถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 และ การผลลัพธ์ของฤดูกาลการแข่งขันเอเซียโรดเรซซิ่ง ซึ่งคาตอบที่จะได้รับจากการแสดงโดยตัวของนักแข่งในปี 2017
ความคิดเห็น
อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ (อันดับที่ 23และ อันดับที่ 1)
"ปีนี้ผมจะกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทั้งทีมและรถแข่ง R25 มีการยกระดับขึ้นอยู่ระดับสูงสุด ดังนั้นผมจึงสามารถที่จะขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมและต่อสู้ในทุกๆ การแข่งขันนั้นคือเหตุผล สาหรับทุกอย่างที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดทั้งฤดูกาลรวมถึงตัวผมเองที่เป็นนักแข่ง ผมคิดว่าการมีชื่อบนตาแหน่งสูงสุดในปีนี้ ต้องขอขอบคุณทีมยามาฮ่าไทยแลนด์ เรซซิ่ง นอกจากนี้ผมไม่สามารถที่จะลืมการมีส่วนร่วมของผมใน มาสเตอร์แค้มป์ มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่และประสบการณ์สาหรับผมโดยตรง ด้วยการฝึกอบรมสาหรับพวกเราโดยเฉพาะ ผมได้เรียนรู้ที่จะรวมเอารูปแบบเหล่านั้นมาใช้เป็นการฝึกฝนทั้งในการออกกาลังกายของผม นั้นคือสิ่งที่ช่วยผมได้มากและผมเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับชัยชนะและความสาเร็จของผมในฤดูกาลนี้ สาหรับฤดูกาลหน้าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สาหรับผม ผมตื่นเต้นมากและผมก็ไม่สามารถรอที่จะเริ่มต้น. "
พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง (อันดับที่ 2 และ อันดับที่ 4)
"ผมไม่สามารถที่จะได้รับผลการแข่งขันอย่างที่ผมต้องการในสนามก่อนสุดท้ายที่ประเทศอินเดีย แต่ผมได้เตรียมพร้อมสาหรับการแข่งขันในสนามสุดท้าย โดยไม่สูญเสียสมาธิของผม หรือมีการยอมแพ้ และผมเชื่อว่าจะชนะการแข่งขันทั้ง 2 เรซ มันเป็นเรื่องยากจริงๆ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นตลอด กับการเปลี่ยนแปลงตาแหน่งกันตลอดเวลา ผมไม่สามารถที่จะผ่านไปยังด้านหน้า แต่นักแข่งในกลุ่มนาเกิดล้มทั้งหมดในอุบัติเหตุของการแข่งขันเรซที่ 1 ทันใดนั้นผมอยู่ในตาแหน่งที่พอจะพยายามสาหรับการเป็นผู้ชนะ ในท้ายที่สุดผมไม่สามารถได้รับชัยชนะ แต่มันก็เป็นโพเดี้ยมแรกของผมนับการแข่งขันสนามที่ 2 ดังนั้นผมพอใจกับผลการแข่งขัน นอกจากนั้นในปีนี้ผมก็ยังได้เข้าร่วมเดอะมาสเตอร์ แค้มป์ ทั้ง 2 ครั้ง ผมได้ทาการปรับปรุงทักษะของผมมาก
ขึ้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นมันทาให้ผมมีโอกาสที่จะเห็นโลกของการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ระดับนานาชาติ ซึ่งดูเหมือนจะห่างไกลกับการแข่งขันของผมก่อนหน้านี้ ขอขอบคุณ ที่สร้างแรงจูงใจแก่ผมสาหรับการแข่งขันเอเซีย โรดเรซซิ่ง ทั้งการส่งเสริมและทาให้ผมตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางสาหรับอนาคต ดังนั้นผมคิดว่าปีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่สาหรับผม"
กาลัง เฮนดร้า ปราทามา (อันดับที่ 7 กับ อันดับที่ 16)
"เกิดสิ่งที่ดีสาหรับรอบคลอลิฟาย แต่โชคไม่ดีกับการแข่งขันทั้ง 2 เรซ ผมได้รับผลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ของการแข่งขันเรซที่ 1 และจากนั้นในการแข่งขันเรซ 2 ผมมีปัญหากับเครื่องยนต์ดังนั้นผมจึงไม่ได้มีความพอใจเป็นอย่างมากกับผลการแข่งขันของผมสาหรับการแข่งขันสนามสุดท้าย มองถึงภาพรวมของฤดูกาล มีทั้งจุดดีและจุดที่ไม่ดี และพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ จุดที่ไม่ดีพบว่าการเกิดอุบัติเหตุและการป้องกันไม่ให้เกิดประเด็นอื่นๆ กับผม เพื่อให้ผมได้รับผลการแข่งขันอย่างที่ผมต้องการ แต่กับสิ่งเหล่านั้นที่เกิด ผมสามารถที่จะยืนอยู่บนโพเดี้ยมถึง 2 ครั้งและได้เข้าร่วมเดอะมาสเตอร์แค้มป์ ผมสร้างบันไดไปสู่เวทีระดับโลก ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งคู่ มองไปถึงผลลัพธ์จากฤดูกาลนี้ ที่ผมได้รับการปรับปรุงถึงทักษะของผม แนวความคิดที่ดี เช่นเดียวกับผลการแข่งของผม ดังนั้นผมรู้สึกเหมือนผมได้เติบโตขึ้นมากในปีนี้ แผนของผมสาหรับฤดูกาลต่อไป ยังไม่ได้กาหนด แต่ไม่ว่ากรณีใดๆ แผนเดียวของผมคือความพยายามสูงสุดที่จะต่อสู้เพื่อตาแหน่งแชมป์. "
เอ็มมานูเอล พุทรา ปราทนา (อันดับที่ 5 กับ อันดับที่ 3)
"มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อยู่ 2 อย่าง คือ รถแข่งและทีมสาหรับฤดูกาลนี้ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทาในขั้นตอนแรกคือการปรับใช้ทุกสิ่ง ผมได้รับจังหวะที่ดีในการแข่งขันที่สนามซูซูกะ ผมได้รับความไว้วางใจมากขึ้นในทีมของผมและประสบการณ์ของผมที่เดอะมาสเตอร์แค้มป์ช่วยให้ดีขึ้น ดังนั้นผมจึงค่อยๆ ต่อสู้เพื่อผลการแข่งขันของผม โดยที่ภายในใจ การเข้ามาร่วมในสนามสุดท้ายนี้ เป้าหมายของผมที่จะต้องอยู่บนโพเดี้ยม แต่ผมมีปัญหากับรถแข่งในการแข่งขันเรซที่ 1 และมันก็ทาให้ขับขี่ได้ยาก เราทารถแข่งกันตลอดทั้งคืนและกลับมาในการแข่งขันเรซที่ 2 กับความมั่นใจที่มากขึ้น แต่ผมไม่สามารถไล่ทันผู้นาทั้ง 2 คัน สิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ก็ยังคงเป็นตาแหน่งบนโพเดี้ยม ดังนั้นผมติดอยู่กับกลุ่มที่ 2 และมาจากข้างหลังขึ้นสู่อันดับที่ 3 ในตอนท้ายที่สุด ผมให้ 100% สาหรับผลการแข่งขันที่ผมได้รับ ผมมีช่วงเวลาที่ยากกับการเปลี่ยนแปลงทีม แต่ผมได้โอกาสในการเรียนรู้ที่มีไอดอลของผมอย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ ดังนั้นผมได้รับประสบการณ์มากในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดมันจะแสดงให้เห็นในฤดูกาลหน้า ผมคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของความท้าทายที่แท้จริง"
โซอิจิโร่ มินามิโมโต้ (อันดับที่ 18 กับ อันดับที่ 18)
"ฤดูนี้เป็นครั้งแรกของผมในการแข่งขันเอเซีย โรด เรซซิ่ง และเมื่อเทียบกันกับเมื่อตอนที่ผม
เริ่มต้น ตอนนี้ผมสามารถที่จะวางแผนด้วยความมั่นคงสาหรับวิธีการปฏิบัติในช่วงสัปดาห์การแข่งขันของผม ดังนั้นเราจึงไม่ใช่เพียงแค่มาถึงสนามสุดท้าย และ มีการทุ่มเทที่ดีกับการแข่งขัน แต่ผมล้มในการแข่งขันเรซที่ 1 และมีปัญหาเครื่องยนต์ในการแข่งขันเรซที่ 2 มันทาให้ผมต้องหลุดจากการแข่งขันและผมนึกถึงวิธีการแข่งที่ยากต่อความสามารถ ผมไม่ได้มีความเร็วพอในการที่จะไปยังด้านหน้าของการขับเคี่ยวกันและผมได้ตระหนักถึงสิ่งใหม่คือผมขาดกาลังของร่างกาย ทางด้านความคืบหน้า ผมได้ทาแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ ยามาฮ่า กับ สถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 ผมได้พบคู่แข่งของผมจานวนมากและรู้สึกถึงการเข้าใกล้กับเวทีระดับโลก ผมยังได้เรียนรู้วิธีการขี่ด้วยความโหยหาและสร้างการขับขี่ให้มันไปยังด้านหน้าและผมได้เรียนรู้วิธีการต่อสู้ ผมไม่สามารถที่จะชนะในฤดูกาลนี้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมมีความเตรียมพร้อมมากขึ้นที่จะชนะ ดังนั้นในฤดูกาลหน้าผมจะทาไม่ว่ารูปแบบการแข่งขันอย่างไหน ผมจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งหนึ่งและสิ่งนั้นก็เพื่อชัยชนะ. "
คาสม่า ดาเนียล บิน คาสมายูดิน (อันดับที่ 17 กับ อันดับที่ 5)
"ผมมีการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ที่มากในฤดูกาลนี้ แต่ผมรู้สึกเหมือนผมไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากมันและผมเสียใจจริงๆ สาหรับทีมเนื่องจากว่า ในสนามนี้ผมต่อสู้เพื่อที่จะอยู่ด้านหน้าและผมมั่นใจ 100% แต่ผมก็ยังไม่ได้รับผลอย่างที่ผมต้องการ ผมไม่สามารถทาผลงานได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ผมรับรู้ว่าทั้งจิตใจและร่างกายของผมมีความแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางความคิด ช่วงเวลาที่ผมอยู่ร่วมกับคู่แข่งของผมที่ ยามาฮ่า กับ สถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 และนักแข่งทุกคนที่เป็นวัยเดียวกันกับผม แต่ความพร้อมเพื่อการแข่งขันบนเวทีระดับโลกเป็นสิ่งกระตุ้นที่แท้จริง แรงจูงใจของผมเพื่อให้ได้ยกระดับขึ้นไปถึงระดับโลกได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง แต่นั่นเป็นเพียงความรู้สึก ณ จุดนี้ ในความเป็นจริงทักษะของผมไม่สามารถที่จะทาในความปรารถนาของผมได้เลย ดังนั้นผมจึงวางแผนที่จะดาเนินการกับสิ่งที่ผมต้องทา เพื่อเพิ่มความสามารถของผมและขยับเข้าใกล้กับเป้าหมายของผมบนเวทีระดับโลกให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้."