นักแข่ง ยามาฮ่า VR46 มาสเตอร์แค้มป์ ทาผลงานดีขึ้นและค้นพบความท้าทายเพิ่มขึ้นในการแข่งขันเอเซียโรดเรซซิ่ง สนาม 4

ระหว่าง วันที่ 7 และ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่เว้นว่างการแข่งขันเกือบ 2 เดือนของรายการแข่งขัน เอเซีย โรดเรซซิ่ง แชมป์เปี้ยนชิฟ 2016 กลับมาแข่งขันกันอีกครั้งกลับช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ณ สนามเซนตุล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย 5 นักแข่งที่ผ่านการเข้าร่วม ยามาฮ่า VR46 มาสเตอร์แค้มป์ พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง (ประเทศไทย), กาลัง เฮนดร้า ปราทามา (อินโดนีเซีย), โซอิชิโร่ มินามิโมโต้ (ญี่ปุ่น), คาสม่า ดาเนียล บิน คาสมายูดิน (มาเลเซีย) และ อิมมานูเอล พุททรา ปราทน่า (อินโดนีเซีย) เดินทางสู่อินโดนีเซียเพื่อร่วมการแข่งขันสนาม 4 ของรุ่น เอเซีย โปรดักซ์ชั่น 250 (เอพี250) ด้วยจุดประสงค์หลักคือการชิงชัย เพื่อดูว่าพวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงผลของการทางานหนักของพวกเขาที่แคมป์โทและในทางปฏิบัติและการฝึกอบรมของพวกเขาขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ ในท้ายที่สุด ทั้ง 5 นักแข่งไม่มีใครได้ขึ้นโพลเดี้ยม ซึ่งถือว่าเป็นการชี้ชัดของความแข็งแกร่งในความสามารถที่มีอยู่ พวกเขาไม่สามารถที่จะข้ามผ่านทั้งทางด้านประสบการ์ณและความเร็วของอภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ผู้นาคะแนนสะสม และแชมป์เก่าจากคาวาซากิอย่าง ทาเคฮิโร่ ยามาโมโตะ แต่ก็ยังเห็นพัฒนาการของพวกเขาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กาลัง เฮนดร้า ปราทามา และ อิมมานูเอล พุททรา ปราทน่า แม้ว่าคุณจะหักล้างกับความจริงว่าเป็นการแข่งขันที่อินโดนีเซีย คือการแข่งขันในบ้านของพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในระหว่างการฝึกซ้อม กาลัง เฮนดร้า ปราทามา เป็นผู้ทาเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์ และยังทาเวลาในการควอลิฟายเป็นอันดับที่ 2 เครื่องยนต์ของเขาทางานได้ไม่เต็มที่ มันไม่ได้ยอดเยี่ยมในการ แข่งขัน ซึ่งเขาไม่สามารถที่จะขยับอันดับของเขา แต่เขาก็แสดงให้เห็นผลลัพธ์ด้วยการขับขี่ที่ดุดันกับการชิงตาแหน่งโฮลช็อตของการแข่งขันทั้ง 2 เรซ ในขณะเดียวกัน อิมมานูเอล พุททรา ปราทน่า ที่มักจะพบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มที่ 2 หรือ 3 ในการแข่งขันของฤดูกาลนี้ ก็ได้แสดงให้เห็นความสามารถที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์ของการขับขี่เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของฤดูกาล ในการฝึกซ้อมและการควอลิฟาย เขาเป็นผู้ที่ทาเวลามาเป็นอันดับต้นๆ และห่าหั่นกับกลุ่มผู้นาในการแข่งขัน บางครั้งสามารถที่จะแซงผ่านอภิวัฒน์ และ ยามาโมโตะ และควบคุมการแข่งขันให้อยู่ด้านหน้าได้อยู่หลายครั้ง พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง จบการแข่งขันในอันดับที่ 8 ของเรซที่ 1 และขึ้นมาต่อสู้กับกลุ่มนาในการแข่งขัน 2 ก่อนที่จะจบอันดับที่ 5 อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามทางด้านของ มินามิโมโต พบว่าตัวเองพัวพันอยู่กลางกลุ่มในการแข่งขันทั้งสองและ คาสม่ายูดิน ยังพบว่ามันยากที่จะได้ผลการแข่งขันที่ดี

มองเฉพาะในการแข่งขันครั้งนี้ทั้ง 5 ยังไม่ได้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แม้ว่าหลังจากที่ผ่านภาระกิจทั้ง 5 วันที่มีคุณภาพระดับสูงและการให้ความรู้ในการเทรนนิ่งอย่างมากมาย โลกของการแข่งขันโดยเฉพาะกับการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ที่หมายถึงการพัฒนาที่ไม่ได้มาอย่างง่ายดาย แต่ด้วยสภาพจิตใจ ทั้ง 5 ได้รับการเรียนรู้และร่างกายที่พวกเขาได้จดจาการขับขี่จากรอสซีและ สถาบันฝึกอบรมนักแข่ง VR46 เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในชีวิตประจาวันของพวกเขาและขั้นตอนต่างๆ การเทรนนิ่ง สาหรับ กาลัง เฮนดร้า ปราทามา และ อิมมานูเอล พุททรา ปราทน่า จากการปรับปรุงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า "การขับขี่ของพวกเขามีความไหลลื่นและจิตใจของพวกเขาที่มีความมุ่งมั่นมากขึ้น แน่นอนว่าพวกเราสามารถเห็นผลลัพธ์ของพวกเขาจากที่ได้เข้าร่วม มาสเตอร์แค้มป์" หนึ่งในผู้จัดการทีมของพวกเขาได้กล่าวไว้

เดอะมาสเตอร์แค้มป์ครั้งต่อไปมีกาหนดที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนักแข่งยามาฮ่าทั้ง 5 ที่เข้าร่วมตั้งแต่ครั้งแรก จะถูกเลือกให้เข้าร่วมอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับผลงานของพวกเขาในการแข่งขันที่อินโดนีเซียของรายการ ARRC ด้วยตาแหน่งของคะแนนสะสมและเงื่อนไขอื่นๆ นับจากนี้พวกเขามีโอกาสที่จะแสดงการเติบโตของพวกเขา สนามที่ 5 ของการชิงแชมป์ในประเทศอินเดียที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

ความคิดเห็น

พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง (ประเทศไทย) (อันดับ 8/ อันดับ 5)
"ในการแข่งขันเรซที่ 1 เครื่องยนต์ผมยังเซ็ทอัพได้ไม่เต็มที่ดังนั้นผมไม่สามารถที่จะทาความเร็วในช่วงทางตรงหรือในโค้งตามที่ผมต้องการมันจึงทาให้เราไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ในการแข่งขันเรซที่ 2 เรามีความสมบูรณ์สาหรับการเซ็ทติ้ง ซึ่งทาให้ผมได้ต่อสู้กับกลุ่มผู้นา ผมต่อสู้อย่างหนัก แต่ผมก็ต้องผิดหวังที่ไปไม่ถึงตาแหน่งโพลเดี้ยม ตอนนี้ผมได้นาเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้จากมาสเตอร์แค้มป์และวางเอาไว้ตั้งแต่การฝึกซ้อม ด้านการขับขี่ก็ยังคงเดิมไว้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางด้านกายภาพซึ่งผลของมันทาให้เรามีความพร้อม ผมยังมีการวางแผนเพื่อที่ก้าวไปข้างหน้าต่อ "

กาลัง เฮนดร้า ปราทามา (อินโดนีเซีย) (DNF / อันดับ 7)
"ผมจะลืมจากการแข่งขันเรซ 1 กับปัญหาของเครื่องยนต์ ในการแข่งขันเรซ 2 ผมได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างของผมให้กับมัน เพราะมันเป็นการแข่งขันในบ้านของผม แต่ช่วงกลางของการแข่งขันเครื่องยนต์ของผมเริ่มมีอาการอีกครั้ง มันทาให้ผมไม่สามารถไปถึงโพลเดี้ยมได้ เดอะมาสเตอร์แค้มป์เป็นประสบการณ์ที่ดีและผมได้เรียนรู้มาก ผมยินดีที่จะมีส่วนร่วมอีกครั้งและได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น. "

คาสม่า ดาเนียล บิน คาสมายูดิน (มาเลเซีย) (DNF / อันดับ 15 )
"เหมือนว่าไม่ได้มาร่วมเลยสาหรับผมในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไม่สามารถหาการเซ็ทอัพที่ดีและผมก็ไม่พอใจกับการขับขี่ของผม ไม่มีผลในแง่ดีใดๆ จริงๆ ตอนนี้ เรามีอีกเพียง 2 สนามที่เหลือดังนั้นผมตั้งเป้าสาหรับตาแหน่งโพลเดี้ยมในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน"

โซอิชิโร่ มินามิโมโต้ (ญี่ปุ่น) (อันดับ 18/ อันดับ 12)
"มีอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับการแข่งขันของผม ผมติดอยู่ที่กลุ่มกลางและผมไม่สามารถหนีออกไปได้ ไม่ว่าผมจะพยายามขนาดไหน ผมอยากจะแสดงการพัฒนาของผมที่ได้จากมาสเตอร์แค้มป์และไม่มีโอกาสที่จะเข้าใกล้แถวหน้าได้ ผมผิดหวังมาก. "

อิมมานูเอล พุททรา ปราทน่า (อินโดนีเซีย) (อันดับ 5/ อันดับ 4)
"ผมถูกรุกไล่อย่างหนัก ในการแข่งขันทั้ง 2 เรซและในที่สุดผมจบการแข่งขันอันดับ5 และ อันดับ 4 ผมผิดหวังจริงๆ เพราะอีกเพียงแค่ 1 อันดับผมก็จะได้ตาแหน่งโพลเดี้ยมแรกของผมใน ARRC เดอะมาสเตอร์แค้มป์มีผลดีกับผมจริงๆ ผมไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้ เช่นการควบคุมยางของผมในการขับขี่สนามเดิร์ทแทร็คมันเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่สาคัญ ผมรู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างที่ผมได้เรียนรู้ถูกนามาแสดงให้เห็นผ่านการขับขี่ของผมช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสนามต่อไปที่ประเทศอินเดียผมต้องการที่จะยืนบนโพลเดี้ยม. "